ผู้เข้าชม
0
26 ธันวาคม 2565

หากอยู่คนเดียว ทางที่ดีควรเดินทางเข้าเมือง  บรรยากาศในเมืองใหญ่ทำให้คริสต์มาสกลายเป็นบางสิ่งบางอย่างที่แสนพิเศษและคู่ควรกับการเฉลิมฉลองอย่างแท้จริง ถนนและร้านค้าประชันตบแต่งแข่งขันกันสุดชีวิต ไฟประดับดวงเล็กๆ นับล้านดวงส่องสว่างแม้ไม่มีทางเทียบเท่ากับแสงยามกลางวัน แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้หัวใจอุ่นได้้บ้าง อย่างไรเสียถนนกลางเมืองก็ยังมีสัญญาณแห่งชีวิต—ผู้คนที่เดินขวักไขว่ คุณตาจูงคุณยาย วัยรุ่นเดินก้มหน้าหนีความหนาว คู่รักควงแขนอ้อยอิ่ง และเหล่านักชอปที่ชอปกันกระจาย นี่เป็นช่วงเวลาแห่งความตะลึงตะลาน เพราะในเมืองไทยไม่มีบรรยากาศของเทศกาลที่ชัดเจนและเข้มข้นขนาดนี้ ต่อให้คิดถึงบ้านขนาดไหน ก็ยังพอทำใจครึ้มๆ ฮัมเพลงคริสต์มาสที่ลอยมาเข้าหูแว่วๆ ได้บ้าง

บทเพลงคริสต์มาส ไม่ว่าจะเป็น Silent Night หรือ Jingle Bell ล้วนมีพลังในการปลุกเร้าที่ยกระดับจิตใจมนุษย์ให้สัมผัสกับสุนทรียภาพและความชุ่มชื่นเยือกเย็นของจิตวิญญาณสากลที่เปี่ยมด้วยการุณยธรรม บทเพลงนำพาหัวใจให้ใคร่ครวญและถวิลหาในสิ่งที่สูงส่ง รวมทั้งส่งสารแห่งความหวังและการเริ่มต้น ที่จำเป็นอย่างยิ่งในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านจากปีเก่าสู่ปีใหม่

The Bigger the Front, the Bigger the Back

อีกด้านของความสวยงามที่ตีคู่มากับการเฉลิมฉลองคริสต์มาสคือ ความเครียดอันเกิดจากภาระค่าใช้จ่ายจำนวนมหาศาลที่หมดไปกับการหาซื้อของขวัญ ทำไมน่ะหรือ? ก็เพราะคริสต์มาสเป็นช่วงเวลาแห่งของ

ขวัญ เป็นเทศกาลที่คาดหวังให้มีการรับและมอบของขวัญ ฝรั่งเครียดเรื่องนี้กันมาก ถ้าใครเคยอ่านเรื่องสี่ดรุณี

(Little Women) วรรณกรรมระดับขึ้นหิ้งคลาสสิคของลุยซ่า เมย์ อัลคอตต์ (Louisa May Alcott) คงเคยสะดุดกับประโยคที่โจ (พี่สาวคนรองหัวขบถผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นนักเขียน) บ่นได้ว่า: คริสต์มาสคงไม่ใช่คริสต์มาส ถ้าปราศจากของขวัญ (Christmas won’t be Christmas without any presents.)

...แล้วอะไรคือของขวัญที่แท้จริง อันเป็นต้นตอและที่มาของวันคริสต์มาสเล่า...?

The Nativity Story—กำเนิดพระเยซู

ของขวัญที่แท้ในคริสต์มาสแรก—อันเป็นคืนประสูติของพระกุมารเยซูเมื่อสองพันกว่าปีมาแล้วนั้น เชื่อกันว่าเป็นของขวัญที่ห่อหุ้มด้วยความมหัศจรรย์และปาฎิหาริย์

...ความมหัศจรรย์และปาฎิหาริย์...

 

ซานต้า และของขวัญ

(ขอบคุณภาพจาก www.thairath.co.th)

 

นี่กระมัง อาจเป็นสาเหตุที่เราไม่เคยพบเจอของขวัญชนิดนี้เลย ไม่ว่าจะในห้างสรรพสินค้า ชอปปิ้งออนไลน์ หรือตามแค็ตตาลอก เพราะความมหัศจรรย์และปาฏิหาริย์สั่งซื้อกันไม่ได้

ของขวัญชิ้นแรกมาจากพระเจ้า เป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และเป็นการแสดงออกถึงความรักอย่างไม่มีเงื่อนไข (unconditional love) พระเยซคริสต์ คือของขวัญอันล้ำค่าที่พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่มวลมนุษย์เพื่อไถ่บาป ภาระกิจของพระบุตรคือการตายแทนคนบาปบนไม้กางเขน เพื่อนำมวลมนุษย์กลับมาสมัครสมานสามัคคีกับพระผู้สร้างอีกครั้ง

ของขวัญชิ้นต่อมา มาจากหญิงพรหมจรรย์แรกรุ่นนามมิเรียม—ครอบครัวและเพื่อนๆ เรียกเธอว่า “มารีย์” ของขวัญคริสต์มาสที่เธอมอบให้โลกคือ การยอมสละซึ่งอัตตาตัวตน (selflessness) โดยสิ้นเชิง และเต็มใจให้ทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินไปตามโองการสวรรค์ เธออุทิศร่างเพื่อเป็นครรภ์รองรับพระวิญญาณบริสุทธิ์ (The Holy Spirit) ที่เสด็จมากำเนิดเป็นพระเยซู

โจเซฟ—คู่หมั้นของมารีย์ ให้ของขวัญแห่งศรัทธาและความไว้วางใจ เขาเชื่อว่ามารีย์ไม่ได้คบชู้สู่ชาย หากแต่ตั้งท้องด้วยฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์จริงๆ เขาแน่ใจว่าทุกอย่างเป็นไปตามพระประสงค์และแผนการของพระผู้เป็นเจ้า

การบังเกิดของพระกุมาร นำมาซึ่งการให้อภัย การเยียวยา ความเต็มเปี่ยม โอกาส ความรอด และความหวัง