ผู้เข้าชม
0
25 กรกฎาคม 2567

ภายในถ้ำที่ฝังศพมนุษย์ซึ่งยังคงมีการดำเนินงานขุดค้นทางโบราณคดี โดยสำนักศิลปากรที่ ๑๒ นครศรีธรรมราช 

เศษภาชนะดินเผาลายประทับแบบกดจุดและทำลวดลายชีดเป็นเส้นคดโค้งแบบที่เรียกว่า 'ซ่าหวิงก์-คาลานาย'

(Sa Huynh-Kalanay Style Pottery) พบที่ถ้ำเขาตาพลาย ตำบลรับร่อ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร1



โดยมีรายงานการสำรวจและการขุดค้นทางโบราณคดี โดยสำนักศิลปากรที่ ๑๒ นครศรีธรรมราช พบแหล่งโบราณคดีแบบชุมชนภายใน ที่ตั้งอยู่ในบริเวณเชิงเขาที่มีเพิงผาถ้ำหินปูน เช่นที่ ‘เขาตาพลาย’ พื้นที่นี้อยู่ในตำบลรับร่อ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร ซึ่งนักโบราณคดีปฏิบัติการผู้ขุดค้นเสนอข้อมูลว่า พบเครื่องมือหินกะเทาะและหินขัด ชิ้นส่วนภาชนะแบบหม้อสามขา และภาชนะรูปทรงต่างๆ แบบเขียนสี รวมทั้งเศษภาชนะดินเผาลายประทับแบบกดจุดและทำลวดลายขีดเป็นเส้นคดโค้งแบบที่เรียกว่า ‘ซ่าหวิงก์-คาลานาย’ [Sa Huỳnh-Kalanay style pottery] ที่มีข้อมูลว่าพบกระจายได้ทั่วไปในระยะนี้ โดยมีความคล้ายคลึงกับที่พบในบริเวณเกาะปาลาวัน [Palawan] ในฟิลิปปินส์ เครื่องปั้นดินเผาแบบฮั่น [Han Dynasty Ceramics] และอื่นๆ อีกมากมาย 

พบชิ้นส่วนภาชนะสำริด ใบหอกสำริด เครื่องมือเหล็ก ลูกปัดต่างๆ โดยเฉพาะพบลูกปัดแก้วมากที่สุด รวมทั้งหินอาเกตและคาร์นีเลียนและเปลือกหอย รวมทั้งกระดูกสัตว์จำนวนมาก 

โดยเสนอค่าอายุการอยู่อาศัยในยุคแรกที่มีการฝังศพ แต่ยังไม่มีเครื่องมือเครื่องใช้ที่ทำจากโลหะหรือกลุ่มลูกปัดและหินกึ่งรัตนชาติต่างๆ ไว้ราว ๔,๑๐๐-๒,๘๐๐ ปีมาแล้ว ซึ่งดูเหมือนเป็นช่วงอายุที่ค่อนข้างห่างไกลมาก ช่วงเวลาในการอยู่อาศัยชั้นต่อมาที่พบเศษภาชนะสำริด เครื่องมือเหล็ก เครื่องปั้นดินเผารูปแบบต่างๆ ลูกปัดต่างๆ ได้ค่าอายุราวๆ ๒,๕๐๐-๑,๘๐๐ ปีมาแล้วหรือราวพุทธศตวรรษที่ ๑-๗ โดยประมาณ (จุตินาฏ บวรสาโชติ นำเสนอผลงานการศึกษาในงานกิจกรรมบรรยายและเสวนาทางวิชาการเผยแพร่ความรู้โบราณคดีภาคใต้ตอนบน เรื่อง "คาบสมุทรภาคใต้ตอนบนของไทย ข้อมูลใหม่จากหลักฐานโบราณคดี : The recent archaeological discoveries in the upper southern region of Thailand. ๑๔ กันยายน ๒๕๖๔)

แหล่งโบราณคดีที่ถ้ำเขาตาพลายนี้ มีการใช้พื้นที่อย่างต่อเนื่องของผู้คนภายใน [Hinterland] ที่อยู่ในช่วงเดียวกับยุคโลหะหรือช่วงสุวรรณภูมิ ในเขตป่าเขาภายในและอยู่ในเส้นทางเดินทางข้ามคาบสมุทรตอนบนสุดของอาณาบริเวณคอคอดกระในยุคสุวรรณภูมิ อนึ่ง ชาวบ้านโดยรอบเล่าถึงที่มาของชื่อเขาตาพลายว่า มาจากชื่อ ‘เขาตายพราย’ เพราะในอดีตมักจะนำศพของผู้เสียชีวิตโดยการจมน้ำไปไว้ในถ้ำด้วยการใส่โลงไม้ แต่ได้นำออกไปจนเกือบหมดแล้ว เหลือร่องรอยเพียง ๒ โลงที่เขียนบันทึกไว้ที่โลงหนึ่งว่าบรรจุใน พ.ศ. ๒๕๑๒

การตายพรายคือการตายที่ยังไม่ถึงเวลา ด้วยความเชื่อแบบเก่าที่จะนำศพของผู้ตายอย่างผิดปกติแยกไปไว้ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์หรือที่มีผู้คนรบกวนน้อย แนวคิดนี้อาจสืบทอดจากแบบแผนโบราณได้ ดังนั้น จึงควรพิจารณาถึงการใช้พื้นที่แบบถ้ำหรือเพิงผาในการฝังศพของผู้คนในบริเวณนี้ในยุคกว่าสองพันปีที่แล้วได้เช่นกัน

ทั้งรูปแบบภาชนะที่ใช้เพื่ออุทิศให้ผู้วายชนม์ที่รับมาจากวัฒนธรรมภายนอกในกลุ่มชาวน้ำหรือกลุ่มผู้เดินทางโดยเรือ [Sea Farers] ไปตามท้องทะเลของคาบสมุทรและหมู่เกาะในทะเลจีนใต้จนถึงเขตติดต่อของมหาสมุทรแปซิฟิคนิยมการประดับตกแต่งผิวภาชนะที่ใช้การกดจุดเพิ่มเติมในลายเส้นเป็นคลื่นหรือการทำรูปเรขาคณิตต่างๆ โดยเสนอข้อมูลว่า บริเวณที่พบภาชนะรูปแบบดังกล่าวนี้ส่วนใหญ่กระจายตัวอยู่ตามถ้ำและเพิงผาของเขาหินปูนโดยเฉพาะในเขตพื้นที่คอคอดกระ เช่น ที่เขาตาพลาย เขาช่องขุกขัก (เพิงผาฉานทา) เขาน้ำลอด (ถ้ำเสือ) ในเขตอำเภอสวี เขาถ้ำถ้วยที่ปากตะโก เป็นต้น

ส่วนที่พบในบริเวณอื่นๆ เช่น ที่ท่าชนะสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลาและแถบเขาหินปูนแถบชายฝั่งอันดามันในจังหวัดกระบี่ ข้อสังเกตคือบริเวณเหล่านี้สัมพันธ์กับแหล่งพื้นที่ซึ่งมีการแสวงหาแร่ธาตุ เช่นแร่ดีบุกตามลำธารในเขตเทือกเขาต่างๆ ของคาบสมุทร ซึ่งมักปรากฏการใช้ภาชนะแบบหม้อสามขาหลายแห่ง แต่จะมีความสัมพันธ์กันอย่างแน่ชัดหรือไม่ต้องมีการศึกษาสำรวจให้ชัดเจนมากขึ้น