ผู้เข้าชม
0
12 เมษายน 2564

ในที่สุด...สยามประเทศก็ได้ต้อนรับการระบาดของโควิด-๑๙ ระลอกใหม่ก่อนจะผลัดพุทธศักราชเพียงไม่กี่อาทิตย์

หลังจากปลุกปล้ำทำความเข้าใจเพื่อมิให้กลายเป็นคนตกเทรนด์ว่านี่ไม่ใช่การ”ระบาดระลอก ๒” แต่เป็นการ “ระบาดระลอกใหม่” เพราะมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญจนพอจะสรุปคร่าวๆ ได้ว่า

คำว่า “ระบาดระลอกใหม่” ซึ่งเรียกว่า Newly Emerging นั้น คือการติดเชื้อครั้งใหม่จากสถานที่และกลุ่มก้อนซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับการระบาดระลอกแรกเลย ส่วนคำว่า “ระบาดระลอกสอง” หรือ Re-emerging นั้น  จะเข้าข่ายก็ต่อเมื่อมีผลพวงอันสืบเนื่องจากการระบาดระลอกแรกด้วย

เมื่อย้อนดูลักษณะการระบาดที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคมปลายปี พ.ศ. ๒๕๖๓ จึงกล่าวได้ว่า นี่คือการระบาดระลอกใหม่ เพราะการติดเชื้อครั้งนี้ไม่ได้มาจากผู้ป่วยจากสนามมวยหรือผับทองหล่อ แต่เป็นกลุ่มก้อนของผู้ติดเชื้อชุดใหม่ที่เป็นแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง ซึ่งกระจุกตัวอยู่หนาแน่นในจังหวัดสมุทรสาคร

 

กว่า ๑ ปีเต็มแล้ว ที่ประเทศไทยและประชากรโลกจำต้องปรับตัวเพื่ออยู่กับภาวะการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาให้ได้   เผลอชั่วพริบตาเดียว “New Normal” หรือ“ความปกติรูปแบบใหม่” ซึ่งเพิ่งจะนิยามเปิดตัวอย่างเป็นทางการในยุคโควิด-๑๙  ก็ได้ก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตวิถีใหม่ที่กำลังจะกลายเป็นความปกติอย่างยิ่ง หน้ากากอนามัย สายคล้อง เจลแอลกอฮอล การล้างมือ และการรักษาระยะห่าง ได้กลายเป็นอาภรณ์และสัญลักษณ์ของยุคสมัยไปเสียแล้ว พร้อมกันนั้นก็ยังเป็นตัวบ่งชี้ถึงการยอมรับกฎเกณฑ์อันแสดงถึงสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมร่วมกัน

หลายเดือนมานี้..แม้ไวรัสจะกลายพันธุ์เป็นรูปชีวิตที่แตกต่างจากสายพันธุ์ตั้งต้น ณ เมืองอู่ฮั่น และแม้ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกจะเลยหลักร้อยล้านมาไกลโขแล้ว แต่ความวิตกกังวลของพลเมืองโลกดูจะลดระดับลง เมื่อนักวิทยาศาสตร์จากหลายประเทศ เริ่มทะยอยประกาศข่าวดีเกี่ยวกับความสำเร็จในการคิดค้นวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-๑๙

ขณะรอคอยการเข้าถึงวัคซีนอย่างถ้วนหน้า ธุรกิจเกี่ยวกับสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจในประเทศไทยก็เป็นไปอย่างคึกคัก โดยเฉพาะการกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งของ “หัวนะโม” เครื่องรางของขลังประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเชื่อสืบกันมายาวนานว่าเป็นของขลังของดีมีสรรพคุณครอบจักรวาล ทั้งด้านโชคลาภ เมตตามหานิยม ป้องกันภัยให้แคล้วคลาดจากสิ่งชั่วร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปกป้องผู้สวมใส่จากโรคระบาดร้ายแรง ซึ่งเรียกเหมารวมโดยใช้คำกลางๆ ว่าโรคห่า-ซึ่งมิได้จำเพาะว่าต้องเป็นอหิวาตกโรคเสมอไป

หัวนะโม เปรียบเสมือนแมวเก้าชีวิตโดยแท้  เพราะแม้จะมิได้พุ่งทะยานราวพลุเสียดฟ้า แต่ก็ไม่เคยหลุดจากความนิยมจนวูบดับลับลาเหมือนวัตถุมงคลประเภทอื่นๆ ที่ซื้อขายกันในตลาดสิ่งศักดิ์สิทธิ์  ยังคงเกาะกระแส “ขายได้เรื่อยๆ"  เป็นภาวะยืนพื้น  รอจังหวะและความประจวบเหมาะของเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดคลื่นแห่งความนิยมเวียนกลับมาเป็นระลอกๆ อีกครั้ง

 


ในช่วงเดือนพฤษภาคมของปี ๒๕๖๒ ราวหกเดือนก่อนการระบาดของไวรัสโคโรนาครั้งแรก หัวนะโมเป็นกระแสโด่งดังขึ้นมาหลังจากมีภาพของ “พระองค์ภา” หรือสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี ทรงสวมใส่กำไลหัวนะโมที่ข้อพระหัตถ์ด้านขวาในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก กอรปกับในปีนั้น ปวีณสุดา ดรูอิ้น (ฟ้าใส) มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 นางงามตัวเต็งมีลุ้นตำแหน่งมิสยูนิเวิร์ส ก็ใส่แหวนนะโมไว้ที่นิ้วโป้งตลอดเวลาขณะประกวด แม้แต่นักการเมืองอย่างพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็มีแหวนหัวนะโมไว้ประดับบารมี

ครั้นเมื่อไวรัสโคโรนาระบาดเข้าจริงๆ จนนำไปสู่มาตรการทยอยล็อกดาวน์ขั้นเด็ดขาดในหลายๆ ประเทศรวมทั้งประเทศไทยตั้งแต่ต้นปี ๒๕๖๓ เรื่อยลงมา นอกจากไอ้ไข่ซึ่งขึ้นแท่นที่พึ่งอันดับหนึ่งในยุคโควิดพ่นพิษแล้ว หัวนะโมก็เป็นอีกหนึ่งของขลังยอดฮิตที่ผู้คนแห่แหนไปเช่ามาบูชาจนผลิตสนองความต้องการแทบไม่ทัน

ยังไม่ทันจะซาความนิยม การระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ปลายปี ๒๕๖๓ ต่อต้นปี ๒๕๖๔ ก็ทำให้กระแสเสาะหาหัวนะโมกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง  มักปรากฏเป็นข่าวว่า วัดในท้องถิ่น เช่น วัดเขาพระทอง อ.ชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช และวัดจันดีซึ่งเป็นต้นกำเนิดหัวนะโมพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ ในอ.ช้างคลาน จังหวัดเดียวกัน ต่างต้องผลิตซ้ำหัวนะโมและแหวนนะโมกันอีกหลายรอบ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่ยังคงเชื่ออย่างแน่นแฟ้นว่าหัวนะโมที่ผ่านการปลุกเสกตามพิธีโบราณ จะสามารถป้องกันและปัดเป่าโรคร้ายโควิด-19 ได้ ดังที่เคยสร้างปาฏิหาริย์มาแล้วเมื่อ ๗๐๐ กว่าปีก่อน

 

แหวนนะโม พ่อท่านคล้าย วัดจันดี อำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช