ผู้เข้าชม
0
13 พฤศจิกายน 2567

จากการศึกษาภาพถ่ายดาวเทียมของ​ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ทิวา​ ศุภจรรยา​ อาจารย์ประจำภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และจากการสำรวจทางโบราณคดีของกรมศิลปากร​ พบเมืองโบราณในแอ่งเชียงรายมากกว่า​ ๑๒๐​ เมือง​ และบริเวณที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นเมืองโบราณอีกประมาณ​ ๔๐​ แห่ง

เมืองโบราณสำคัญแต่ละแห่ง​ มักมีระยะห่างจากเมืองใหญ่อีกแห่งที่ใกล้ที่สุด​ ค่อนข้างเป็นระยะแน่นอน​ คือ​ ๓๐​ หรือ​ ๖๐​ กิโลเมตร​ โดยมีชุมชนเล็กๆ​ ที่เรียกในตำนานต่างๆ ว่า​ บ้าน กระจายตัวอยู่ตามเส้นทางสัญจร เมืองเหล่านี้กระจายตัวอยู่ตามแนวขอบของแอ่งที่ราบ​ หรือบริเวณที่เป็นเชิงเขา​ แต่ไม่ห่างจากแม่น้ำสายหลักมากนัก​ โดยพื้นที่เหล่านี้จะไม่ได้รับผลกระทบในฤดูน้ำหลาก​ และยังสะดวกต่อการติดต่อคมนาคมและการค้ากับเมืองอื่นๆ


เมืองโบราณในแอ่งที่ราบเชียงราย
ที่มา: กรมศิลปากร-กลุ่มเผยแพร่ประชาสัมพันธ์

 

ลุ่มน้ำกก เป็นแหล่งโบราณคดีที่สำคัญของเมืองโบราณในภูมิภาคนี้อีกที่หนึ่ง จิตร ภูมิศักดิ์ นัก-ประวัติศาสตร์ชื่อดัง เชื่อว่าลุ่มแม่น้ำกกเป็นศูนย์กลางสำคัญของสังคมและอารยธรรมก่อนปี พ.ศ. ๑๘๐๐ ชื่อแม่น้ำอาจมาจากต้นกกที่ขึ้นอยู่โดยรอบ หลักฐานทางโบราณคดีที่มาสนับสนุนแนวคิดนี้ มีการพบซากเมืองโบราณกว่า ๓๐ แห่งตามสองฝั่งแม่น้ำในจังหวัดเชียงรายและอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ซากเมืองเหล่านี้คาดว่าสร้างขึ้นหลังพุทธศตวรรษที่ ๑๗ แต่มีการอยู่อาศัยของชนชาติไต-ไทในพื้นที่นี้มาอย่างต่อเนื่อง ต่อมาในพุทธศตวรรษที่ ๑๙ ศูนย์กลางการปกครองได้ย้ายจากแม่น้ำสายมาสู่แม่น้ำกก และขยายอิทธิพลลงทางใต้

จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อพญามังราย กษัตริย์แห่งเมืองเงินยาง สร้างเมืองเชียงรายในปี พ.ศ. ๑๘๐๕ และต่อมาในปี พ.ศ. ๑๘๓๙ ได้ย้ายเมืองหลวงลงมาสร้างเชียงใหม่ริมแม่น้ำปิง นับแต่นั้นศูนย์กลางอารยธรรมล้านนาก็ย้ายจากลุ่มแม่น้ำกกมาสู่ลุ่มแม่น้ำปิง และพัฒนาต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

ภาพที่ถูกบันทึกไว้ของอาจารย์มานิต วัลลิโภดมและอาจารย์ศรีศักร วัลลิโภดม ที่สบกก สามเหลี่ยมทองคำ เชียงแสน จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สองพ่อลูกได้เคยเดินทางร่วมกันไปสำรวจทางโบราณคดีและภูมิวัฒนธรรมในแถบจังหวัดภาคเหนือเมื่อหลายทศวรรษก่อน ทำให้ต้องไปค้นข้อมูล  ‘๓ บทรัฐสุวรรณโคม’ ในบทความ 'สุวรรณภูมิอยู่ที่ไหน' ของอาจารย์มานิต วัลลิโภดม ในวารสารเมืองโบราณ ปีที่ ๒ เล่มที่ ๔ เดือนกรกฎาคม-กันยายน พ.ศ. ๒๕๑๙ ซึ่งให้ภาพของภูมิศาสตร์เมืองเชียงราย โดยเฉพาะด้านแม่น้ำผ่านตำนานและพงศาวดารตามภูมิศาสตร์โบราณคดี โดยเฉพาะ ‘ตำนานเมืองสุวรรณโคมคำ’

‘….เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๒ กรมศิลปากรตีพิมพ์หนังสือประชุมพงศาวดารภาคที่ ๗๒ เรื่องตำนานเมืองสุวรรณโคมคำออกเผยแพร่ ข้าพเจ้าสนใจอ่านแล้วอ่านเล่าอยู่หลายปี ทั้งหาโอกาสไปศึกษาพิจารณาภูมิประเทศในเนื้อเรื่อง เท่าที่สามารถจะกระทำได้ไปด้วย จึงถากกระพี้ คือข้อความที่แฝงอยู่ในสำนวนเทศนาออกใต้ เหลือแต่แก่นอันเป็นความสำคัญของเรื่องราว ทำให้ทราบว่า ตำนานเรื่องนี้เป็นตำราภูมิศาสตร์ และประวัติศาสตร์มนุษย์ในสมัยโบราณนานไกล....’

การอธิบายภูมิศาสตร์ทางหนองน้ำขนาดใหญ่ แม่น้ำ มหาสมุทร จากดินแดนทางตอนใต้ของจีน อาจารย์มานิต ได้สังเคราะห์ฉายภาพให้เห็น โดยใช้พื้นฐานของตำนานเมืองสุวรรณโคมคำ