การเปรียบเทียบไปยังถ้ำเขานุ้ยและเขากอบในจังหวัดตรัง ซึ่งเป็นเขตการทำเหมืองแร่ดีบุกชัดเจนและมีอยู่ติดกับเส้นทางคมนาคมจากชายฝั่งอันดามันสู่ชายฝั่งอ่าวไทย การพบพระพิมพ์แบบมหายานปาละ พระพิมพ์แบบที่คล้ายพระพิมพ์ลพบุรี พระพุทธรูปแบบไชยาที่เป็นพระแบบข้อมือหัก การเขียนภาพสีแดงรูปธรรมจักรหรือตราเป็นวง แบบแผนเหล่านี้ล้วนปรากฏอยู่ที่อาณาบริเวณเมืองอู่ทองเช่นกัน
จากภาพถ่ายสมบัติส่วนตัวของคุณมนัส โอภากุล ที่ระบุว่าเป็น ‘พระถ้ำเสือพิมพ์ใหญ่แบบเก่า’ เป็นพระปางมารวิชัย เห็นชัดเจนเลยว่ามีรูปแบบของ ‘พระข้อมือหัก’ แบบที่พบในบริเวณกลุ่มเมืองไชยาและนครศรีธรรมราช และเรื่อยมาจนถึงเมืองเพชรบุรี ราชบุรีทีเดียว และที่น่าแปลกใจคือพบว่ารูปแบบพระข้อมือหักเช่นนี้เก็บรักษาไว้ในระเบียงคดของปราสาทนครวัดเป็นกลุ่มใหญ่ด้วยซึ่งต้องศึกษาถึงเหตุผลนี้อย่างต่อเนื่องต่อไปในอนาคต
‘พระถ้ำเสือ’ จำนวนมากคือคติการบรรจุพระที่ผลิตจากพิมพ์ทำอย่างหยาบๆ เพื่อทำจำนวนมากๆ เป็นประกอบการเดินทางจาริกตามขนบการเดินทางสู่ ‘ปุษยคีรี’ และต่อมาคือการรับคติเรื่องการจาริกแสวงบุญเพื่อมาไหว้พระบาทที่เขาดีสลักต่อมาในช่วงสมัยลพบุรี ซึ่งพระบาทที่เขาดีสลักนี้รับอิทธิพลรูปแบบความเป็นตัวเองมาจากสมัยทวารวดีตอนปลายนี้อย่างแจ่มชัด และน่าจะส่งอิทธิพลให้แก่พระพุทธบาทหินทรายซึ่งพบที่นครวัดด้วย
การบรรจุพระจำนวนมากๆ แม้จะเป็นพระพิมพ์แบบท้องถิ่นที่มีลักษณะเฉพาะก็ตาม แต่ต้องใช้อานิสงส์ความเพียรไม่น้อยในการบรรจุแต่ละคราว แต่ละเขาแต่ละเทือกเขา เป็นการสืบพระศาสนาให้แก่ผู้มีความเพียรและมีฐานะที่สามารถทำพระพิมพ์ดินดิบครั้งละมากๆ ได้ และแนวเขาของเมืองอู่ทองนี้จึงมีการอยู่อาศัยใช้งานสืบเนื่องมาจากสมัยทวารวดีจนถึงสมัยลพบุรีและน่าจะถึงสมัยสุพรรณภูมิ/อโยธยาในช่วงราวพุทธศตวรรษที่ ๑๘-๑๙ เมื่อมีความเปลี่ยนแปลงของบ้านเมืองที่เกิดขึ้นใหม่หลายแห่ง และเห็นได้ชัดในการตั้งชุมชนที่สอดรับกับเส้นทางการเดินทางเพื่อการรับส่งสินค้าของป่าโดยเฉพาะแร่ตะกั่วจากต้นน้ำแม่กลองในเขตเทือกเขาทางตะวันตก
‘พระถ้ำเสือ’ จึงสืบเนื่องเป็นผลมาจากคติการจาริกแสวงบุญในการเดินทางสู่‘ ปุษยคีรี’ ศาสนสถานบนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเมืองอู่ทอง และการขยายตัวไปตามแนวเขาทางด้านเหนือที่สอดรับกับการเกิดขึ้นของบ้านเมืองใหม่ๆ ในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๑๖-๑๘ ซึ่งในที่สุดก็เกิด ‘ เมืองสุพรรณภูมิ’ ริมแม่น้ำสุพรรณบุรีของกลุ่มชาวสยาม
สันนิษฐานว่า ‘พระถ้ำเสือ’ ที่มีอัตลักษณ์ถือกำเนิดในช่วงเวลานี้
บรรณานุกรม
มนัส โอภากุล. พระถ้ำเสือเมืองสุพรรณ, ศิลปวัฒนธรรม ปีที่ ๑๔ , ฉบับที่ ๕, มีนาคม ๒๕๓๖
มนัส โอภากุล, อีแปะจีน ใต้พื้นดินเมืองสุพรรณ, ศิลปวัฒนธรรม. กุมภาพันธ์ ๒๕๓๙
อดุลย์ ฉายอรุณ. พระถ้ำเสือ มรดกของสุวรรณภูมิ, ๒๕๕๑
คำสำคัญ :