‘เขากระจิว’ เป็นเนินเขาหินขนาดย่อม ไม่สูงนัก อยู่เหนือเขาวงมาทางแถบบ้านทุ่งดินดำทางทิศใต้ของคลองหมื่นทิพ ที่เป็นคลองรับน้ำจากที่สูงของบริเวณแนวเขาต่างๆ ที่พบพระถ้ำเสือทางทิศตะวันตก ที่เชิงเขาบริเวณทางขึ้นพบอาคารก่อสร้างด้วยหินก้อนใหญ่ๆ เรียงซ้อนกันเป็นพระสถูป สภาพพังทลาย ด้านในเป็นห้องกรุอาจเคยบรรจุพระหรือสิ่งของต่างๆ มาก่อนก็ได้ พระสงฆ์ที่อยู่ในปัจจุบันไม่ทราบเรื่องการพบพระถ้ำเสือ
เขากระจิวเป็นเขาหินมอขนาดเล็กๆ บริเวณฐานด้านทางขึ้นเขาปัจจุบันพบการก่อสร้าง
โดยนำหินมาเรียงคล้ายอาคารแบบสถูปเจดีย์ ภายในมีห้องกรุ อาจเคยบรรจุสิ่งของ
ปัจจุบันสอบถามแล้วยังไม่พบผู้รู้เรื่องพระถ้ำเสือ
‘เขาสำเภาจอด’ หรือ ‘เขานกจอด’ เป็นกลุ่มแนวเขา ๓ เขาต่อกัน คือเขาหัวเขาที่มีวัดหัวเขาเป็นวัดสำคัญ แต่สอบถามไม่มีใครทราบเรื่องพระถ้ำเสือ มีการระเบิดหินจากเขาสำเภาจอด ซึ่งเคยเป็นภูเขาที่สูงสุดเขาสุดท้ายทางด้านตะวันตกจนราบเรียบไป ถ้ำสำคัญที่อยู่ด้านหลังของเขาสำเภาจอด ใกล้กับหมู่บ้าน ชาวบ้านเล่าว่าเคยเป็นถ้ำและสำนักสงฆ์สำคัญของย่านนี้ น่าจะเคยพบวัตถุสำคัญหลายอย่าง ก็ถูกแรงระเบิดหินถล่มพังปากถ้ำไปหมดแล้ว
อนึ่ง สันนิษฐานว่าแนวเขาสำเภาจอดในอดีตน่าจะสูงเด่นเป็นจุดสำคัญทางสายตาของนักเดินทาง เพราะเหมือนรูปร่างของเรือสำเภาที่จอดลอยอยู่กลางอากาศ เมื่อมองจากพื้นราบโดยรอบ และบริเวณนี้อยู่ในเส้นทางเดินทางจากแถบบ้านเลาขวัญ เข้าสู่ห้วยกระพร้อยที่สามารถเดินทางสู่บ้านท่ากระดาน ในเทือกเขาของลำน้ำแควใหญ่หรือศรีสวัสดิ์ได้ บริเวณนี้เป็นทางออกของเหมืองแร่ตะกั่วที่มีการทำมาอย่างยาวนาน การนำออกต้องใช้ผู้ชำนาญพื้นที่สูงในกลุ่มชาวละว้าหรือชาวกะเหรี่ยง แต่ในอดีตน่าจะเป็นชาวละว้าเสียมากกว่า ดังชื่อลำน้ำ ‘ท่าว้า’ หรือเปลี่ยนมาเป็น ‘ท่าเสด็จ’ ในเขตอำเภอเมืองสุพรรณบุรีปัจจุบัน
เขาสำเภาจอด ถ้ำสำคัญก้อนหินถล่มปิดปากถ้ำ ไม่มีผู้ใดในหมู่บ้านใกล้เคียงทราบเรื่องพระถ้ำเสือแต่อย่างใด