ผู้เข้าชม
0
21 สิงหาคม 2563

 

การจัดการจากราชสำนักกรุงธนบุรีในเมืองเขมรยังคงมีต่อมาจนเมื่อ พ.ศ. ๒๓๒๑ เจ้าพระยาสุรสีห์ฯ หรือสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสีหนาท ยกทัพจากกรุงธนบุรีไปถึงเมืองบันทายเพชรหรือเมืองอุดงมีชัย กราบทูล สมเด็จพระรามราชาหรือนักองโนนว่า จะขึ้นไปตีเมืองลาวตามลำแม่น้ำโขงจากเมืองอุดงในเขมรต่อเนื่องไปถึงเมืองเวียงจันทน์ จากที่เกณฑ์พลมาแล้วหมื่นหนึ่ง จะขอไพร่พลมาสมทบกับเสบียงอาหารอีกหมื่นหนึ่งด้วย

สมเด็จพระรามราชาให้เกณฑ์คนเมืองกระพงสวาย (กำปงสวาย) เมืองศรีสุนทร (สีทันดร) เมืองตะบงคะมุม ยกทัพเรือไปสมทบ ให้พระยาพระคลังของเขมรไปตั้งกองสีข้าวสารส่งกองทัพอยู่ที่เมืองกระพงธม เมืองกระพงสวาย จนราษฎรได้รับความเดือดร้อน พวกเขมรที่ไปทัพหนีทัพกลับมาหาครอบครัว สมเด็จพระรามราชาก็ส่งคนไปจับมาลงโทษ แต่ถูกราษฎรจับข้าหลวงและพระยาพระคลังนั้นฆ่าเสีย

สมเด็จพระรามราชาให้ไปเอาตัวพระยาเดโช ชื่อแทน พระยาแสนท้องฟ้า ชื่อเปียง พระยามนตรีเสน่หา ชื่อโส ซึ่งหนีทัพมาเมืองบันทายเพชร ให้ฆ่าพระยามนตรีเสน่หา แต่พระยาแสนท้องฟ้าน้องพระยาเดโชนั้นให้เฆี่ยน ๕๐ ที ถอดเสียจากที่ พระยาเดโชนั้นให้คงที่อยู่ตามเดิม แล้วให้คืนไปอยู่เมืองกระพงสวายดังเก่า

แต่ต่อมาก็เข้ากับฝ่ายญวนจับพระรามราชาประหารเสียในภายหลัง จนกลายเป็นการนำปัญหาเข้าสู่กลุ่มการเมืองสามฝ่ายคือ เขมร ญวน และสยาม อย่างชัดแจ้งในช่วงเวลาต่อมา’

จนข้ามปีต่อมา เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกหรือเจ้าพระยาจักรีแต่เดิมและเจ้าพระยาสุรสีห์ฯ ตีเมืองล้านช้างได้แล้ว จึงอพยพกวาดต้อนครัวกลุ่มใหญ่เข้ามาทางเมืองพันพร้าว แล้วให้ทัพเมืองหลวงพระบางไปตีเมืองทันต์ ญวนเรียกว่า เมืองซือหวี เมืองม่อย ๒ เมืองนี้เป็น ‘ลาวทรงดำ อยู่ริมเขตแดนเมืองญวน’ ได้ครอบครัวลาวทรงดำ พร้อมลาวเวียง ลาวหัวเมืองฟากโขงตะวันออกลงมาเป็นอันมาก

‘ลาวทรงดำ’ สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี โปรดเกล้าฯ ให้ไปตั้งบ้านเรือนอยู่เพชรบุรี ลาวเวียง ลาวหัวเมืองฟากโขงตะวันออก ก็โปรดเกล้าฯให้ไปตั้งบ้านเรือนอยู่เมืองสระบุรีบ้าง เมืองราชบุรีบ้าง ตามหัวเมืองตะวันตกบ้าง อยู่เมืองจันทบุรีบ้าง

ดังนั้น กลุ่มที่ถูกอพยพมาในชุดหลังนั้นมี ‘ไทดำ’ หรือ ‘ชาวโซ่ง’ ในพื้นที่เมืองเพชรบุรีแถบอำเภอเขาย้อยเป็นสำคัญถูกอพยพเข้ามาเป็นกลุ่มใหญ่ พร้อมกับกลุ่มลาวจากฝากตะวันออกของแม่น้ำโขง ซึ่งกล่าวรวมๆ ได้ว่านับแต่เมืองหลวงพระบาง เมืองหงสา ไล่ลงมาจนถึงกลุ่มลาวที่เวียงจันทน์ ซึ่งจะถือเอาสำเนียงเสียงพูดก็นับว่าต่างกัน และตั้งถิ่นฐานจากเดิมก็กระจัดกระจายออกไปอีกหลายแห่ง

 

วัดเกาะศาลพระ ย่านเขมรลาวเดิมที่เป็นชาวลาว ที่ริมแม่น้ำอ้อม อำเภอวัดเพลง จังหวัดราชบุรี